พูดถึง กระเจี๊ยบเขียว บางคนอาจจะชอบในความ กรุบๆ กรอบๆ เอามาลวกจิ้มน้ำพริกกินอร่อย แต่บางที่บางคนก็ไม่ชอบ เมือกเหนียวๆ หรือรสชาติที่ไม่มีรสชาติอะไรเลย เวลากินเข้าไปก็รู้สึกยืดๆ
กระเจี๊ยบเขียว มีดีกว่าที่คิด

กระเจี๊ยบเขียว มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์
กระเจี๊ยบเขียวมีสารต้านอนุมูลอิสระ กลูตาไทโอน เป็นตัวช่วยในการซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหาย และขจัดสารพิษในร่างกายเราได้ แถมยังช่วยต้านมะเร็งได้ด้วย
กระเจี๊ยบเขียวช่วยเกี่ยวกับระบบขับถ่ายทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น เพราะเมือกที่อยู่ในกระเจี๊ยบเขียวนั้นจะมีสาร polysaccharide ที่ช่วยในการเสริมสร้างการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่มีประโยชน์ แบบพรีไบโอติก และยังดูดน้ำเข้าในลำไส้ ช่วยในเรื่องขับถ่าย ทำให้ขับถ่ายง่ายขึ้น
กระเจี๊ยบเขียวช่วยลดคอเรสเตอรอลในร่างกายได้ดี เมือกที่อยู่ด้านในกระเจี๊ยบเขียวจะทำการจับตัวกับน้ำดีและเข้าไปกำจัดไขมันส่วนเกินต่างๆออกไปจากร่างกายทำให้ลดคอเลสเตอรอลได้

กระเจี๊ยบเขียว เป็นยารักษาโรคกระเพาะได้ เพราะในเมือกกระเจี๊ยบเขียวช่วยทำให้แบคทีเรียพวก H.Pylori ที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคกระเพาะอาหาร ไม่สามารถเกาะฝังตัวติดกับกระเพาะอาหารของเราได้
กระเจี๊ยบเขียวเป็นยาแก้พยาธิตัวจี๊ด กระเจี๊ยบเขียวที่ยังอ่อนถ้ามีการนำมาปรุงเป็นอาหาร เช่น ต้มหรือปิ้งไฟให้สุก นำมาจิ้มน้ำพริก ทำแกงต่างๆ ให้กินวันละ 3 เวลา ติดต่อกัน 15 วัน หรือบางคนต้องกินเป็นเดือนอาการถึงจะดีขึ้นจึงจะหาย หรือ ใช้รากกระเจี๊ยบแดง กระเจี๊ยบเขียว ต้มดื่มก็ได้

แล้วกระเจี๊ยบเขียวดีกับแม่ท้องมั้ย
กระเจี๊ยบเขียวช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น สำหรับคุณแม่ที่มีปัญหาเรื่องท้องผูกกระเจี๊ยบเขียวช่วยได้ กระเจี๊ยบเขียวยังมีโฟลิกสูง เสริมสร้างระบบประสาทของทารกใน ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของทารกในครรภ์ และยังช่วยเสริมสร้างเม็ดเลือดแดง เนื่องจากมีโฟเลตสูง คุณแม่ท้องก็กินกระเจี๊ยบเขียวได้ แต่ก็ต้องกินสลับกับอาหารอื่นๆ เพื่อจะได้สารอาหารที่ครบถ้วน